พระนางมินเป็นบุตรสาวขุนนางในตระกูลมินแห่งยอฮึง เมื่ออายุ 16 พระนางถูก "เจ้าชายแดวอน" บิดาของพระเจ้าโกจงซึ่งดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการเลือกให้อภิเษกกับพระเจ้าโกจงเพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เนื่องด้วยคิดว่าพระนางมินเพียงเป็นเด็กกำพร้าที่สูญเสียครอบครัวไปตั้งแต่เด็กและไม่มีใครให้การสนับสนุนจึงง่ายต่อการควบคุม แต่เจ้าชายแดวอนคิดผิดมหันต์
พระนางมินเป็นเด็กหัวสมัยใหม่ที่สนใจความเป็นมาเป็นไปของโลก พระนางศึกษาเรียนรู้ความยิ่งใหญ่ของจีนและความเจริญก้าวหน้าของญี่ปุ่น ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาการบริหารราชการแผ่นดินและปฏิรูปประเทศแก่พระเจ้าโกจง เพิ่มความมั่นคงของประเทศที่อยู่ในสถานะ "รัฐกันชน" ด้วยการผูกมิตรกับราชวงศ์ชิงเพื่อให้มาคานอำนาจกับญี่ปุ่นที่จ้องจะกลืนกินโชซอนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
การมาของพระมเหสีมินทำให้ตำแหน่งผู้สำเร็จราชการของเจ้าชายแดวอนหลุดลอยไป อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่ราชวงศ์ชิงส่งกองทัพเข้าไปช่วยเหลือราชสำนักโชซอนปราบปรามกลุ่มกบฏถือเป็นการละเมิดข้อตกลงกับญี่ปุ่น กลายเป็นสงครามจีนญี่ปุ่นซึ่งผลจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของจีนจนนำไปสู่ "สนธิสัญญาชิโมโนะเซกิ" ซึ่งราชวงศ์ชิงจะต้องยุติบทบาททุกอย่างในโชซอนลง
ไร้อำนาจราชวงศ์ชิงแผ่นดินโชซอนจึงตกอยู่ในความไม่มั่นคง พระมเหสีมินหันไปดึงรัสเซียเข้ามาคานอำนาจกับญี่ปุ่น จนในที่สุดจักรวรรดิญี่ปุ่นตระหนักแล้วว่าราชวงศ์โชซอนดำรงอยู่ได้ด้วยความสามารถของพระมเหสีมินผู้ทำหน้าที่เสาหลัก "มิอุระ โกโร" เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำเกาหลีจึงเปิดปฏิบัติการลอบปลงพระชนม์พระมเหสีมิน ณ พระราชวังคยองบก ในวันที่ 8 ตุลาคม 1895 โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเจ้าชายแดวอน
พระมเหสีมินผู้วายชนม์ถูกปลดสถานะลงเป็นเพียงสามัญชนธรรมดา พระเจ้าโกจงถูกบีบให้ลงจากบัลลังก์และลี้ภัยไปยังสถานกงสุลรัสเซียพร้อมกับรัชทายาท ภายหลังพระเจ้าโกจงสถาปนาจักรวรรดิเกาหลีสำเร็จทรงพระราชทานนามพระมเหสีมินว่า "สมเด็จพระราชินีมยองซอง" และเมื่อพระเจ้าโกจงปราบดาภิเษกเป็นจักรพรรดิควางมู พระนางมินจึงเลื่อนเป็น "สมเด็จพระจักรพรรดินีมยองซอง"
