เคยมีการตั้งคำถามว่านักการทหารท่านใดเป็นสุดยอดกุนซือในประวัติศาสตร์จีน แม้จะไม่สามารถหาคำตอบที่ว่านี้ได้แต่ก็มีการยกย่องให้ "เจียงจื่อหยา" (Jiang Ziya: 姜子牙) หรือที่รู้จักกันว่า "เจียงไท่กง" (Jiang Taigong: 姜太公) เป็นต้นแบบของนักปกครองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีนโดยเฉพาะตำราพิชัยของท่านที่เป็นต้นแบบของตำราพิชัยในยุคต่อๆมา


เจียงจื่อหยา (Jiang Ziya): เจียงไท่กง (Jiang Taigong)

เจียงจื่อหยา (นามเดิมคือเจียงซั่ง) ท่านเป็นนักปกครองที่มิใช่มีเพียงแค่การวางแผนทางการทหารเท่านั้น ท่านยังใช้ความรู้ตามหลักฮวงจุ้ยและโหราศาสตร์ในการคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ ชาวจีนในยุคต่อๆมาจึงยกย่องบูชาท่านประหนึ่งเทพเจ้าและในสมัยราชวงศ์ถังท่านก็ได้รับพระราชทานนามเทียบเท่าขงจื๊อมหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ของจีน

เจียงจื่อหยาเกิดในช่วงปลายราชวงศ์ชาง (ราว 2,000 ปีก่อนคริสตกาล) โดยเป็นชาวเมืองเฉาเกอ ท่านชอบสังเกตความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติและพินิจพิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง ทว่าแม้ท่านจะมีความรู้ความสามารถมากแต่กลับไม่มีโอกาสใช้ได้อย่างเต็มที่ทำให้ตลอดชีวิตวัยหนุ่มไปจนถึงวัยกลางคนจึงมีแต่ความล้มเหลว

เจียงจื่อหยาเคยรับราชการในราชวงศ์ชางแต่ทนความโหดร้ายทารุณและสนใจเพียงการทำเพื่อสนองตัณหาของโจ้วหวางอ๋องแห่งราชวงศ์ชางไม่ได้ ท่านเลือกที่จะเข้าเป็นแกนนำในการนำทัพพันธมิตรต้านราชวงศ์ทว่าน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟเป็นธรรมดา กองทัพของท่านถูกตีแตกพ่ายจนต้องหนีกระเจิงไป

ความล้มเหลวของท่านยังหมายรวมมาถึงครอบครัว เจียงจื่อหยาได้ครองคู่กับสตรีนางหนึ่งจนให้กำเนิดบุตรสาวที่ชาญฉลาดใฝ่รู้ไม่น้อย ทว่าที่ชีวิตที่แสนยากลำบากทำให้ภรรยาขอแยกทางไปทิ้งให้ท่านอยู่กับลูกสาวตามลำพัง แต่การจากไปของภรรยากลับเหมือนเป็นจุดเริ่มที่ทำให้ท่านประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิต

แม้จะเริ่มเข้าสู่วัยชราแต่เจียงจื่อหยายังคงไม่สิ้นปณิธานทำการใหญ่ ท่านมีความฝักใฝ่ในโจวอู่อ๋องแห่งเมืองซีฉีผู้มีชื่อเสียงล่ำลือในเรื่องคุณธรรมจึงออกเดินทางจากเฉาเกอแล้วสร้างกระท่อมเล็กๆอาศัยอยู่อย่างสมถะกับลูกสาว ในทุกวันๆเจียงจื่อหยาจะออกมานั่งตกปลาบริเวณริมแม่น้ำเว่ยสุ่ยจนเป็นภาพที่ผู้คนผ่านไปผ่านมาคุ้นตา

วันเวลาผ่านไปหลายปีแต่เจียงจื่อหยายังคงไม่สามารถตกปลาได้แม้แต่ตัวเดียว คำตอบนั้นหาใช่อื่นใดแต่เป็นเพราะเบ็ดที่ท่านใช้นั้นเป็นเพียงเข็มเย็บผ้ามิใช่ตะขอ แถมเหยื่อที่ใช้ก็หามีไม่จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ปลาจะไม่มาติดเบ็ด เมื่อมีผู้สงสัยเอ่ยถามท่านจึงเผยถึงเป้าหมายที่แท้จริงของการหย่อนเบ็ดรอเหยื่อ

แล้ววันที่เหยื่อติดเบ็ดก็มาถึงเมื่อโจวอู่อ๋องได้ยินกิตติศัพท์ของเจียงจื่อหยาจึงบุกป่าฝ่าดงมาเชิญด้วยพระองค์เอง โจวอู่อ๋องยอมลากเกวียนให้เจียงจื่อหยานั่งเพื่อแสดงความเลื่อมใสรวมระยะทาง 808 ก้าวก่อนที่เชือกใช้ล่ามจะขาด เมื่อเห็นดังนั้นเจียงจื่อหยาจึงกล่าวว่าจะทำให้ตระกูลของโจวอู่อ๋องปกครองแผ่นดิน 808 ปี

เจียงจื่อหยาได้รับการยกย่องให้เป็นพระอาจารย์กุมอำนาจทางการทหารทั้งหมดไว้ในมือ ผลงานสำคัญของท่านคือการนำทัพโค่นล้มราชวงศ์ชางที่ยิ่งใหญ่ได้สำเร็จจนโจวอู่อ๋องสถาปนาราชวงศ์โจวตะวันตกขึ้นปกครองแผ่นดินเมื่อ 1046 ปีก่อนคริสตกาลและทำให้ราชวงศ์โจวกลายเป็นราชวงศ์ที่ครองแผ่นดินยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์จีน

เจียงจื่อหยาถือเป็นผู้วางรากฐานการปกครองจนอย่างแท้จริง ช่วงปลายรัชสมัยโจวอู่อ๋องนั้นเจียงจื่อหยาในวัยเหยียบ 100 ได้รับการแต่งตั้งให้ไปปกครองเมืองฉีอันเป็นดินแดนบ้านเกิดและพัฒนาจนแผ่นดินมีความอุดมมั่งคั่ง ขณะเดียวกันก็ยังคงทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่โจวเฉิงอ๋องผู้ครองราชย์ในรัชสมัยต่อมาก่อนที่จะจากไปอย่างสงบ

ในช่วงที่กองทัพราชวงศ์โจวเปิดศึกกับราชวงศ์ชางนั้นได้เกิดตำนานว่าด้วยเรื่องราวของสนมต๋าจี่ขึ้นมาโดยนางเป็นปีศาจจิ้งจอกที่เข้าสิงร่างของสนมต๋าจี่และควบคุมชักใยโจ้วหวางอ๋องจนไม่สนใจการบริหารบ้านเมือง เจียงจื่อหยาได้รับมอบหมายภารกิจในการนำทัพเทพเซียนเข้าต่อกรจนได้รับชัยชนะและสำเร็จโทษต๋าจี่