ฟ่านหลี (Fan Li: 范蠡) ยอดกุนซือสมองเพชรในยุคชุนชิวที่บ้านเมืองยังแบ่งการปกครองออกเป็นแว่นแคว้นและมีสงครามระหว่างแคว้นเกิดขึ้นอยู่เนือยๆ เวลานั้น "แคว้นอู๋" และ "แคว้นเย่ว์" ถือเป็นสองแค้วนที่ได้ชื่อว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน โดยฟ่านหลีคือผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือแคว้นเย่ว์ที่พ่ายแพ้ศึกจนแทบพังพินาศให้กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง


ฟ่านหลี (Fan Li: 范蠡) / เถาจูกง (Tao Zhu Gong: 陶朱公)

ฟ่านหลี (ฟ่านหลี่) เดิมทีเป็นชาว "รัฐฉู่" แม้จะทำงานอยู่ในราชสำนักแต่การที่เขาไม่ได้รับโอกาสในการแสดงความสามารถทำให้ฟ่านหลีตัดสินใจอำลาบ้านเกิดแล้วมาลงหลักปักฐานอยู่ที่แคว้นเยว่ ด้วยความช่วยเหลือของเหวินจ้งทำให้ฟ่านหลีมีโอกาสแสดงวิสัยทัศน์ในการคิดวิเคราะห์ได้อย่างแยบยลจนถูกอกถูกใจเยว่อ๋องโกวเจี้ยนยิ่งนักและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางใหญ่ข้างกาย

สติปัญญาอันปราดเปรื่องของฟ่านหลีช่วยให้โกวเจี้ยนสร้างแผ่นดินเยว่จนยิ่งใหญ่เกรียงไกรและสามารถรบชนะคู่ปรับตลอดกาลอย่างแคว้นอู๋ได้สำเร็จ แต่ชัยชนะที่ได้มาในครั้งนั้นกลับเป็นเหมือนดาบสองคมที่นำภัยมาสู่แคว้นเยว่ โกวเจี้ยนที่ยังคงกระหายในชัยชนะไม่ฟังคำทัดทานของฟ่านหลีและนำทัพเข้าสู้รบกับแคว้นอู๋ที่นำทัพมาโดย 'ฟูไซ' ซึ่งผลของสงครามจบลงด้วยความพ่ายแพ้ย่อยยับ

สถานการณ์คับขันแต่เพื่อรักษาความหวังในการกอบกู้แคว้นฟ่านหลีจึงเสนอให้โกวเจี้ยนยอมจำนนไปเป็นเชลย แม้ตอนแรกโกวเจี้ยนจะปฏิเสธเสียงแข็งแต่ก็ต้องยอมรับ โกวเจี้ยนและภรรยาถูกนำตัวไปเป็นคนเลี้ยงม้าในแคว้นอู๋ในสภาพที่ไม่เหลือเค้าโครงของผู้ยิ่งใหญ่แต่กระนั้นฟ่านหลีก็ยังคงติดตามและปฏิบัติต่อทั้งสองเยี่ยงนายกับบ่าวดังเช่นเคยปฏิบัติมา

ชื่อเสียงในเรื่องความปราดเปรื่องของฟ่านหลีนั้นนับได้ว่าไม่เป็นสองรองใคร แม้แต่ฟูไซเองก็ยังยอมรับและเคยเสนอให้ฟ่านหลีมาอยู่กับฝ่ายตนแทนที่จะอยู่กับเชลยศึกแต่ก็ถูกฟ่านหลีปฏิเสธ แต่การปฏิเสธของฟ่านหลีก็ยิ่งทำให้ฟูไซรู้สึกถูกอกถูกใจฟ่านหลีขึ้นไปอีก

ในช่วงที่ฟูไซล้มป่วยด้วยอาการที่หมอหลวงยังหนักใจ ฟ่านหลีเสนอให้โกวเจี้ยนชิมอุจจาระของฟูไซเพื่อหาสาเหตุของอาการดังกล่าวโดยมีจุดประสงค์ที่แท้จริงคือการแสดงให้เห็นว่าพวกเขายอมจำนนอย่างจริงใจ โกวเจี้ยนเชื่อฟังฟ่านหลีจึงยอมทำตาม แม้จะต้องสูญสิ้นศักดิ์ศรีแต่ก็ทำให้ฟูไซเชื่อใจและยอมปล่อยโกวเจี้ยนกลับมายังแคว้นเยว่

ก่อนที่แคว้นเยว่จะพ่ายแพ้นั้นฟ่านหลีได้มีโอกาสพบกับสาวชาวบ้านที่งดงามหาผู้ใดเปรียบนั่นคือไซซี แม้การพบกันของทั้งสองจะเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้หัวใจของคนทั้งสองเป็นหนึ่งเดียวกัน หลังจากอยู่ในฐานะเชลยศึกฟ่านหลีรู้ดีว่าฟูไซนั้นหลงใหลในกามารมณ์จึงคิดจะใช้กลยุทธ์สาวงามเข้าโจมตี แต่หญิงสาวที่มีความงามเพียงพอในแผ่นดินนั้นหาได้ยากยิ่งนัก ฟ่านหลีจึงจำใจเสียสละไซซีให้ฟูไซได้เชยชมจนลุ่มหลงไม่สนใจบริหารราชกิจ

กลยุทธ์สาวงามใช้ได้ผลดีเกินคาดจนฟูไซเอาแต่มัวเมาในตัวไซซีถึงขนาดสั่งให้ขุนนางผู้ซื่อสัตย์อย่างอู่จื่อซีปลิดชีวิตตนเองซึ่งเท่ากับเป็นการทำลายฐานที่มั่นคงของแคว้นลง ทางด้านฟ่านหลีเมื่อกลับมาแคว้นเยว่ก็ใช้เวลาหลายปีช่วยเหลือโกวเจี้ยนสร้างบ้านเมืองและกองทัพจนแข็งแกร่งก่อนที่จำนำทัพเข้าพุ่งรบจนเอาชนะแคว้นอู๋ได้สำเร็จ

การได้อยู่กับโกวเจี้ยนมานานทำให้ฟ่านหลีได้รู้ถึงความนึกคิดที่ซ่อนอยู่ภายใน ฟ่านหลีรู้ดีว่าตอนนี้โกวเจี้ยนไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปเขาจึงขอลาออกจากราชการ ก่อนไปฟ่านหลีได้เตือนแก่เหวินจ้งให้ถอนตัวออกจากโกวเจี้ยนเสีย แต่เหวินจ้งกลับไม่เชื่อ สุดท้ายเหวินจ้งจึงถูกโกวเจี้ยนใส่ร้ายและประทานให้ฆ่าตัวตาย

หลังจากหมดหน้าที่ในแคว้นเยว่แล้วฟ่านหลีและไซซีออกเดินทางโดยเปลี่ยนชื่อแส้ใหม่ว่า ‘เถาจูกง’ (Tao Zhu Gong: 陶朱公) เขาประกอบอาชีพค้าขายแต่ด้วยสติปัญญาอันล้ำเลิศทำให้ประสบความสำเร็จจนมีผู้คนขนานนามให้เป็นเทพเจ้าแห่งการค้า โดยเขาได้เขียนตำรา 24 ข้อของผู้ประสบความสำเร็จ แบ่งเป็น 12 สิ่งพึงกระทำและ 12 สิ่งควรหลีกเลี่ยงซึ่งถูกใช้เป็นแนวทางให้ยึดปฏิบัติตลอดมา